โครงการอบรมพระวิปัสสนาจารย์
พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความสงบร่มเย็น ที่มุ่งส่งเสริมการพัฒนาจิตใจให้เกิดปัญญา เพื่อพัฒนาตนเองและสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข สงบร่มเย็น มีความเกื้อกูลกันในมวลมนุษยชาติทั้งยังเป็นศาสนาที่ดำรงอยู่คู่กับวิถีชีวิตของคนไทย เป็นรากฐานวัฒนธรรมไทย พระพุทธศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีไทย เป็นศาสนาประจำชาติไทย อีกทั้งเป็นแนวทางการดำเนินชีวิตที่ทำให้คนไทยอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน หลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนามีบทบาทและมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีวิตในฐานะเป็นแบบอย่างของการปฏิบัติตน สร้างค่านิยมที่ดีงามให้กับคนในสังคมชาวไทยยอมรับนับถือกันว่าพระพุทธศาสนาเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างทางสังคม การเมืองและเศรษฐกิจของประเทศไทย การปฏิบัติธรรมหรือการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ถือว่าเป็นหลักสำคัญในการดำเนินชีวิตของประชาชนชาวไทยอย่างมากเพราะทำให้ผู้ปฏิบัติธรรมมีสดิ สุขุม รอบคอบ มีจิตใจที่สงบ มีสมาธิ เกิดปัญญาสามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้
หน้าที่อันสำคัญของพระภิกษุผู้เป็นศาสนทายาทในพระพุทธศาสนามี ๒ ประการ คือ ๑) คันถธุระ คือ การศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ๒) วิปัสสนาธุระ คือ การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ดังที่ท่านได้อธิบายว่า “การเรียนนิกายหนึ่งก็ดี สองนิกายก็ดี จบพุทธวจนะ คือ พระไตรปิฎกก็ดี ตามสมควรแก่ปัญญาของตน แล้วทรงไว้ กล่าวบอกพุทธวจนะนั้น ชื่อว่าคันถธุระ ส่วนการเริ่มตั้งความสิ้นและความเสื่อมไว้ในอัตภาพ ยังวิปัสสนาให้เจริญ ด้วยอำนาจแห่งการทำการติดต่อแล้ว ถือเอาพระอรหัตของภิกษุผู้มีความประพฤติแคล่วคล่อง ยินดียิ่งแล้วในเสนาสนะอันสงัดชื่อว่า วิปัสสนาธุระ”
ในปี พ.ศ.๒๔๙๘ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จมาทรงปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวมหาสติปัฏฐานสูตร ที่พระเจดีย์ทองศรีรัตนมหาธาตุ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏี้ กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) อธิบดีสงฆ์วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎี้ เป็นผู้ถวายศีล แนะนำวิธีกราบเบญจางคประดิษฐ์ และมีพระอุดมวิชาญาณเถร วิ. (โชดก ญาณสิทธิมหาเถร) พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ เป็นผู้ถวายพระกรรมฐานและการสอบอารมณ์พระกรรมฐาน เป็นประจำทุกๆ วัน ติดต่อกันเป็นเวลา ๑ เดือน ซึ่งพระองค์ได้ทรงสนพระทัยในการปฏิบัติเป็นอย่างดียิ่ง ประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ทรงเพียบพร้อมไปด้วยพระวิริยะอุตสาหะเป็นพิเศษ ได้รับการสอบอารมณ์พระกรรมฐาน ได้รับถวายวิสัชนาพระธรรมตามโอกาสอันควร ได้เพิ่มอิริยาบถจงกรม ตั้งแต่ระยะที่ ๑ จนถึงระยะที่ ๖ และเมื่อสภาวธรรมปรากฏชัดแจ่มแจ้งดีแล้ว ก็ทรงอธิษฐานไปตามลำดับ และทรงเห็นผลของการปฏิบัติธรรมได้อย่างแจ้งชัดด้วยพระองค์เอง
การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานนั้น จำเป็นจะต้องอาศัยพระวิปัสสนาจารย์ผู้มีความรู้ แตกฉานหลักพระปริยัติเชี่ยวชาญหลักการปฏิบัติ สามารถแนะนำวิธีปฏิบัติ วิสัชนาปัญหาอันโยคาวจรติดขัดสงสัย รู้ชัดในสภาวธรรม จึงจะทำให้เกิดผลของการปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ถูกทาง ถูกธรรม
พระวิปัสสนาจารย์มีทำหน้าที่อบรมสั่งสอน และนำปฏิบัติในด้านวิปัสสนาธุระ โดยนำหลักธรรมของพระพุทธศาสนาทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ ที่เกิดจากการศึกษาเล่าเรียนในพระไตรปิฎก หรือจากครูอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ นำมาถ่ายทอดเผยแผ่ให้แก่พุทธบริษัท เพื่อเป็นการฝึกอบรมจิตให้มีศีล สมาธิ ปัญญาทำให้จิตสงบเกิดความสุขร่มเย็น มีปัญญารู้เท่าทันสรรพสิ่งตามความเป็นจริง ในปัจจุบันพระวิปัสสนาจารย์ที่ผ่านการอบรมยังมีไม่เพียงต่อการสอนธรรมนำปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
ด้วยเหตุนี้ ศูนย์ส่งเสริมสำนักปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ได้มองเห็นความสำคัญของการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงได้จัดโครงการอบรมวิปัสสนากรรมฐานสำหรับพระวิปัสสนาจารย์ สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและพัฒนาพระวิปัสสนาจารย์ให้มีภูมิรู้ภูมิธรรมทั้งภาคทฤษฏีและภาคปฏิบัติ ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนำไปต่อยอดแนะนำอบรมประชาชนให้สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ อีกทั้งเป็นการพัฒนาบุคลากรด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนาให้มีความมั่นคงสืบไป